เมื่อวานเข้าคลาส Training หัวข้อ "How to be the successful 21st Century leader" บทเรียนว่าด้วยเรื่อง Leadership ในช่วงที่อาจารย์ให้นึกถึงต้นแบบที่อยู่ในใจ...ตอนนั้นนึกถึงคุณ "ซิกเว่ เบรกเก้" อดีตผู้บริหารของดีแทค เพราะเคยติดตามอ่านหนังสือของคุณซิกเว่ อยู่พักหนึ่งในช่วงที่กำลังค้นหา Inspiration ให้กับชีวิตตัวเอง เลยจะขอหยิบยกข้อคิดดีๆ ที่คุณซิกเว่นำมาใช้ในชีวิตประจำวันเสมอๆ ทั้งเรื่องชีวิต และการทำงานของเค้าเอง (ใครจะเอาไปใช้ต่อนั้น ซิกเว่บอกว่าเขายินดีมากๆ)
1. Have a vision ไม่ใช่เรื่องผิดเลยถ้าคุณจะมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล ในเวลาที่ John K. Kennedy ประกาศ ในปี 1962 ว่าเขาจะส่งคนไปดวงจันทร์ให้ได้ภายใน 10 ปี เวลานั้นทุกคนมองว่าเขาไม่มีทางที่จะทำได้ ใครจะไปรู้ว่าอีกเพียง 7 ปีต่อมา นั่นคือปี 1969 โลกเราก็มีมนุษย์คนแรกที่ไปเหยียบดวงจันทร์ได้สำเร็จ และเร็วกว่าที่เขาประกาศไว้ถึง 3 ปี! “อย่าไปตั้งวิสัยทัศน์หรือแผนการที่มันธรรมดาๆ เกินไป ตั้งให้สุดๆ ไปเลย” ซิกเว่บอก
2. Mindset Matters ซิกเว่บอกว่าเรื่องของ “วิธีในการคิด” นั้นสำคัญ และมีพลังมากกว่า “ทักษะ” หรือความรู้ความสามารถที่คนๆ นั้นมีเสียอีก
3. Lead Crisis Company เขา ได้ยกตัวอย่างว่า ถ้าให้เลือกระหว่างการบริหารบริษัทที่ดีไม่มีปัญหาใดๆ กับบริษัทที่กำลังอยู่ในวิกฤติ เขาเลือกที่จะบริหารบริษัทหลังดีกว่า (รู้แล้วว่าทำไมเขามาบริหารดีแทค)
“การ บริหารบริษัทที่กำลังอยู่ในช่วงวิกฤติ จะทำให้เราได้ใช้ความสามารถทั้งหมดที่มีออกมาสู้แบบหลังชนฝา เราไม่มีทางเลือก ทางเลือกที่มีคือต้องสู้่เท่านั้น”
4. Embrace Change ยอมรับความเปลี่ยนแปลงให้ได้ และกระตือรือร้น ที่จะแสวงหาความเปลี่ยนแปลงเสมอๆ
5. Be Opposite บริษัทอันดับหนึ่งในอุตสาหกรรมเดียวกับเรา แน่นอนว่าเราึคงอยากรู้วิธีการว่าเขาทำอย่างไร เพื่อที่จะได้นำมาเป็น benchmark ให้เราพัฒนาตัวเองต่อๆ ไป “แต่วิธีการนี้มันผิด!!!!!” ซิกเว่บอกด้วยน้ำเสียงขึงขัง “อย่าไปทำตามใครสิ การ copy benchmarking ไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย เพราะแต่ละคนมีดีไม่เหมือนกัน วิธีที่ดีที่สุดคือทำในแบบของเราเอง… Let’s Sing Your Own Song!!!”
6. Take Risks and Make Failure ทำผิดเข้าไว้ จะได้เรียนรู้วิธีการที่ถูก เพื่อที่จะได้ไม่ผิดอีก และนี่คือสิ่งที่ซิกเว่บอกลูกน้องของเขาเสมอๆ “อย่าง ที่ดีแทคนี่ ถ้าพนักงานคนไหนทำผิด ผมมีรางวัลให้เลยนะ ผมจะบอกพวกเขาทุกวันว่าควรทำผิดบ้าง จะได้เรียนรู้ ถ้าไม่ผิดเลยก็ไม่ได้บทเรียนอะัไรเลย บริษัทก็จะไม่เติบโต ถ้าไม่อนุญาตให้มีการทำความผิดพลาด”
2. Mindset Matters ซิกเว่บอกว่าเรื่องของ “วิธีในการคิด” นั้นสำคัญ และมีพลังมากกว่า “ทักษะ” หรือความรู้ความสามารถที่คนๆ นั้นมีเสียอีก
3. Lead Crisis Company เขา ได้ยกตัวอย่างว่า ถ้าให้เลือกระหว่างการบริหารบริษัทที่ดีไม่มีปัญหาใดๆ กับบริษัทที่กำลังอยู่ในวิกฤติ เขาเลือกที่จะบริหารบริษัทหลังดีกว่า (รู้แล้วว่าทำไมเขามาบริหารดีแทค)
“การ บริหารบริษัทที่กำลังอยู่ในช่วงวิกฤติ จะทำให้เราได้ใช้ความสามารถทั้งหมดที่มีออกมาสู้แบบหลังชนฝา เราไม่มีทางเลือก ทางเลือกที่มีคือต้องสู้่เท่านั้น”
4. Embrace Change ยอมรับความเปลี่ยนแปลงให้ได้ และกระตือรือร้น ที่จะแสวงหาความเปลี่ยนแปลงเสมอๆ
5. Be Opposite บริษัทอันดับหนึ่งในอุตสาหกรรมเดียวกับเรา แน่นอนว่าเราึคงอยากรู้วิธีการว่าเขาทำอย่างไร เพื่อที่จะได้นำมาเป็น benchmark ให้เราพัฒนาตัวเองต่อๆ ไป “แต่วิธีการนี้มันผิด!!!!!” ซิกเว่บอกด้วยน้ำเสียงขึงขัง “อย่าไปทำตามใครสิ การ copy benchmarking ไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย เพราะแต่ละคนมีดีไม่เหมือนกัน วิธีที่ดีที่สุดคือทำในแบบของเราเอง… Let’s Sing Your Own Song!!!”
6. Take Risks and Make Failure ทำผิดเข้าไว้ จะได้เรียนรู้วิธีการที่ถูก เพื่อที่จะได้ไม่ผิดอีก และนี่คือสิ่งที่ซิกเว่บอกลูกน้องของเขาเสมอๆ “อย่าง ที่ดีแทคนี่ ถ้าพนักงานคนไหนทำผิด ผมมีรางวัลให้เลยนะ ผมจะบอกพวกเขาทุกวันว่าควรทำผิดบ้าง จะได้เรียนรู้ ถ้าไม่ผิดเลยก็ไม่ได้บทเรียนอะัไรเลย บริษัทก็จะไม่เติบโต ถ้าไม่อนุญาตให้มีการทำความผิดพลาด”
7. Be Uncomfortable อย่าสบายจนติดเป็นนิสัย เรื่องนี้ซิกเว่บอกว่าสำคัญมาก ถ้าเราเคยชินกับอะไรที่สบายมากเกินไป เราก็จะหมด “แรงจูงใจ” ที่จะผลักหันตัวเองให้ค้นหาสิ่งใหม่ๆ หรือความเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ เป็นต้นว่าหากเราต้องเดินไปบนไม้แคบๆ เราจะต้องพยุงและทรงตัวตลอดเวลาเพื่อไม่ให้ล้มและข้ามแม่น้ำไปได้ และหากเราต้องเดินแบบนี้ไปเรื่อยๆ ทุกวันๆ เราก็จะเดินได้คล่องแม้ว่าทางเดินนั้นจะอันตรายเพียงใด ต่างจากการที่เราเดินแบบสบายๆ สักวันเราต้องมาเดินบนไม้นี้ เราก็จะเดินไม่ได้ และไำม่สามารถข้ามฝั่งไปหาสิ่งที่เราต้องการได้ “จงอยู่ใน Uncomfortable Zone ตลอดเวลา” นี่คือสิ่งที่เขาแนะนำ
8. Positive Attitude ทัศนคติที่ดี สำคัญกว่าความสามารถที่เรามี “สำหรับผม พนักงานของผมไม่ต้องมี skill ที่หรูหรามากก็ได้ แต่ขอให้มีทัศนคติที่ดีเป็นพอ เพราะผมมองว่าทัศนคติที่ดีนั้นสำคัญกว่า”
8. Positive Attitude ทัศนคติที่ดี สำคัญกว่าความสามารถที่เรามี “สำหรับผม พนักงานของผมไม่ต้องมี skill ที่หรูหรามากก็ได้ แต่ขอให้มีทัศนคติที่ดีเป็นพอ เพราะผมมองว่าทัศนคติที่ดีนั้นสำคัญกว่า”
9. Always Under Promise and Over Deliver อย่าไปสัญญาหรือให้ความคาดหวังกับลูกค้ามากจนเกินไป เพราะหากทำตามนั้นไม่ได้ เราเองที่จะเสีย“แทน ที่จะทำแบบนั้น เราก็รับปากลูกค้าน้อยๆ แต่ให้ลูกค้ามากกว่าสิ่งที่เราสัญญาไว้ ดีกว่าการไปรับปากแล้วทำให้ไม่ได้ตามที่ลูกค้าต้องการ”
10. Before you are a leader, success is to grow yourself. After you become a leader, success is to grow others. “ก่อน ที่คุณจะเป็นผู้นำ ความสำเร็จของคุณคือการทำให้ตัวเองเติบโต แต่เมื่อใดก็ตามที่คุณเป็นผู้นำแล้ว ความสำเร็จของคุณก็คือการทำให้คนอื่นเติบโต”
ทิ้งท้ายอีกสักข้อ ข้อนี้คิดว่าสำคัญมากในชีวิตการทำงานเลยค่ะ....ยิ่งคนเรามีอีโก้สูงขึ้นเท่าไหร่ ก็จะทำให้คุณมีความมั่นใจในตัวเองสูง ไม่ยอมรับฟังผู้อื่น คิดว่าตัวเองถูกอยู่ฝ่ายเดียว สุดท้ายสิ่งที่คุณสร้างมาก็จะพังทลายลงเพราะความมั่นใจของตัวเองมากเกินไป ดั่งคำพูดของคุณซิกเว่ เบรคเก้ ที่ได้กล่าวกับลูกน้องของเขาว่า “ยิ่งสูงมากเท่าไหร่ ประสบความสำเร็จมากเท่าไหร่ หูของเราก็มักจะไม่ได้ยินมากขึ้นยิ่งสูง ก็ยิ่งต้องฟังมากขึ้น ฟังมากกว่าพูด”
ขอให้มีความสุขกับทุกวันของคุณนะคะ...
ความคิดเห็นนี้ถูกลบโดยผู้ดูแลระบบของบล็อก
ตอบลบความคิดเห็นนี้ถูกลบโดยผู้ดูแลระบบของบล็อก
ตอบลบ